Smart Gauge คืออะไร
เครื่องมือนี้มันจะทำงานเหมือนกับเครื่อง Tech II ที่มีใช้อยู่ตามศูนย์บริการต่างๆ แต่เป็นแบบฉบับย่อและหลักการทำงานก็จะเป็นการดึงข้อมูลจากกล่อง ECM แบบ read only สามารถอ่านค่าต่างๆ ECM ได้จากกล่องขณะที่เครื่องยนต์ทำงานอยู่ได้ตลอดเวลาในแบบ real time โดยการต่อใช้งานแค่เสียบปลั๊ก OBD II ที่ Port บริเวณใต้คอพวงมาลัย เครื่องก็จะดึงข้อมูลต่างๆ ออกมาแสดงที่หน้าจอ ถ้าตัวเครื่องยนต์ของรถมีปัญหามันจะแสดงค่า Diagnostic Trouble Code (DTC) เพื่อนำมาวิเคราะห์สาเหตุที่ทำไฟ engine ที่โชว์ขึ้น ว่าเกิดจากอะไร อีกทั้งยังสามารถลบ code และ check engine ได้อีกด้วย
นอกเหนือจากนี้ ยังมีคุณสมบัติพิเศษคือ
- มี LCD สีฟ้าหรือสีแดง (option) มี Back Light ปรับความสว่างได้ 10 ระดับ
- มี LED แสงขาว บริเวณ switch เพื่อให้มองเห็นในเวลากลางคืน
- มี LED แสงฟ้า/เขียว แสดงสถานะการทำงานของแอร์ *
- สามารถตั้งค่า Alarm ที่ผู้ใช้สามารถตั้งค่าได้เอง ดังนี้
1. อุณหภูมิน้ำในหม้อน้ำ (LED & Buzzer)
2. แบตเตอรี่ (LED & Buzzer)(เฉพาะบางรุ่น)
3. ความเร็วรอบ (LEDเป็น Shift light)
Digital Gauges
1.EGR (Exhaust Gas Recirculate)
2.RPM (Revolution Per Minute)
3.KMH (Kilometer Per Hour)
4.ECT (Engine Coolant Temperature)
5.MAF (Mass Air Flow) Engine Light
6.IDL (Desired Idle Speed)
7.FTM (Fuel Temperature)
8.IAT (Intake Air Temperature)
9.ACP (Accelerate Padel Position)
10.TPS (Throttle Position Sensor)
11.ECL (Calculated Engine Load)
12.CRP (Commonrail Pressure)*
13.BARO (Barometric Pressure)*
14.ITA (Ignition Timing Advance)
15.TBP (Turbo Boost Pressure)*
16.STF1 (Short Term Fuel Trim Bank1)*
17.LTF1 (Long Term Fuel Trim Bank1)*
18.OX1 (Oxygen Sensor Voltage:Bank1 Sensor 1)*
19.OX2 (Oxygen Sensor Voltage:Bank1 Sensor 2)*
20.AFR (Air Fuel Ratio)* 21.BATT (Battery Voltage)*
22.MAP (Manifold Pressure)
23.KML (Kilometer Per Liter)*
24.EGT (Exhaust Gas Temperature)*
* เฉพาะบางรุ่น
1.คุณสมบัติทั่วไป (Brochure)
· เป็นเกจวัดแบบดิจิตอล
LCD ชนิด 2 แถวสีน้ำเงินเย็นสบายตา
· การแสดงผลมี 2 โหมด คือ แบบแสดงค่า 1 ตัวแปรและแบบ 3 ตัวแปร
· ปรับความสว่างของจอแสดงผลได้ตามความต้องการ
· การแสดงผลเป็นแบบ Real Time อ่านข้อมูลจาก ECU โดยตรง
· ติดตั้งง่ายแค่ต่อสายเพียงเส้นเดียวผ่านปลั๊ก OBD-II
· ไม่ต้องต่อ Sensor เพิ่ม
· สามารถอ่านค่าต่างๆได้มากกว่า 16 รายการ
· สามารถอ่านค่ารหัสวิเคราะห์ปัญหา(DTC) ได้
· สามารถเคลียร์ค่าไฟเตือนเครื่องยนต์มีปัญหา(MIL)ได้
· สามารถแสดงการทำงานของแอร์ได้
· สามารถตั้งไฟเตือนรอบเครื่องยนต์สูงเกินได้(หรือเรียกว่า Shift Right)
· สามารถตั้งเตือนอุณหภูมิหม้อน้ำสูงเกินได้
· สามารถตั้งเตือนแรงดันแบตเตอรีต่ำได้
· หน้าปัดเป็นสีทูโทนและมีสองสีให้เลือก
· ขนาดเล็ก กะทัดรัด
· ใช้ได้กับรถ ISUZU DMAX(2005-2006),Mu-7, Chevrolet Colorado(2005-2006) และโตโยต้า Vigo,Fortuner· แสดงผลด้วยจอ
2.การติดตั้งใช้งาน
1.ในการติดตั้งใช้งานครั้งแรกให้ปิดสวิตซ์เครื่องยนต์ไปตำแหน่ง “ON” โดยที่ยังไม่สตาร์ทเครื่องยนต์ แล้วจึงเสียบสายที่ให้มาพร้อมกับเครื่อง Smart Gauge เข้ากับปลั๊ก OBD-II ซึ่งโดยปกติจะอยู่บริเวณคอนโซลใต้พวงมาลัยรถ ตามรูป
1. หน้าจอของ Smart Gauge ก็จะติดสว่างขึ้นและใช้เวลาในการ Setup นิดเดียวก็พร้อมทำงานและแสดงในโหมดแสดงผลปกติแบบ Real Time
2. เมื่อติดตั้งเครื่อง Smart Gauge ในครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อไปก็ไม่ต้องทำอะไร เพียงแค่ท่านปิดกุญแจตามปกติเครื่องก็พร้อมทำงานเลย
3.แต่ถ้าท่านถอดสายออก ท่านจะต้องเริ่มทำเหมือนขั้นตอนที่ 1 ใหม่
3.ประโยชน์ของ Smart Gauge
เพียงแต่ท่านติดตั้ง สมาร์ทเกจ ในครั้งแรกท่านก็จะรู้สึกถึงคุณค่าของมัน และความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคาเนื่องจากมันถูกจำลองมาจากเครื่องมือขนาดใหญ่ราคาเป็นแสน ที่ใช้ตามศูนย์บริการขนาดใหญ่เพื่อใช้ดูค่าพารามิเตอร์ต่างๆของรถยนต์ซึ่งช่วยวิเคราะห์หาเหตุเสียของทุกระบบของรถยนต์ เช่นระบบเครื่องยนต์ ระบบเบรก อื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้เรายังเพิ่มฟังก์ชั่นการเตือนคนขับรถด้วย เช่น เตือนอุณหภูมิของหม้อน้ำสูงจนผิดปกติ ดังนั้นจึงขออธิบายออกเป็นส่วน ดังนี้
3.1 การแสดงผลแบบ Real-Time
ในรถยนต์สมัยใหม่จะมีการพัฒนาเครื่องยนต์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุดโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการควบคุมการทำงานหรือที่เรียกว่า ECU และการที่ ECU จะส่งสัญญาณเพื่อควบคุมส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องได้นั้นมันจะต้องรับสัญญาณจากอุปกรณ์ Sensor จากแหล่งต่างๆเพื่อมาใช้ในการประมวลผล ดังนั้นเมื่อ Smart Gauge สามารถติดต่อกับ ECU ได้มันจึงสามารถนำผลจาก Sensor ต่างๆที่ส่งมาให้ ECU มาแสดงที่หน้าจอได้แบบ Real-Time ทำให้เราประเมินความผิดปกติของรถยนต์ได้ง่ายมากขึ้น ค่าพารามิเตอร์ต่างที่สามารถแสดงได้มีดังนี้
· MAF (Mass Air Flow):ปริมาณอากาศที่ไหลเข้าไปผสมน้ำมัน(กรัม/วินาที)
· RPM (Revolution Per Minute):รอบเครื่องยนต์(รอบ/นาที)
· KML (Kilometer Per Liter):อัตราการสิ้นเปลืองน้ำมัน(กิโลเมตร/ลิตร)
· ECT (Engine Coolant Temperature):อุณหภูมิน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ(องศา เซลเซียส)
· KMH (Kilometer Per Hour):ความเร็วของรถยนต์(กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
· DIS (Desired Idle Speed):รอบเดินเบาที่คำนวณโดย ECU(รอบ/นาที)
· FTEM (Fuel Temperature):อุณหภูมิน้ำมันเชื้อเพลิง(องศาเซลเซียส)
· IAT (Intake Air Temperature):อุณหภูมิไอดี(องศาเซลเซียส)
· ACC (Accelerate Pedal):ตำแหน่งการเหยียบคันเร่ง(เปอร์เซ็นต์)
· TPS (Throttle Position):ตำแหน่งการเปิดวาล์วปีกผีเสื้อ(เปอร์เซ็นต์)
· ECL (Engine Calculated Load):ภาระของเครื่องยนต์(เปอร์เซ็นต์)
· EGR (Exhaust Gas Recirculation):ตำแหน่งการทำงานของวาล์ว EGR(เปอร็เซ็นต์)
· CPR (Common rail Pressure):แรงดันคอมมอนเรล(Mpa)
· BATT(Battery):แรงดันของแบตเตอรี่(โวลต์)
· BARO(Barometric Sensor):แรงดันบรรยากาศ(กิโลปาสคาล)
. TBP(Turbo Boost Pressure):แรงดันเทอร์โบ(กิโลปาสคาล)
· ITA (Ignition Timing Advance):มุมจุดระเบิด(องศา)
· VIN (Vehicle Number):หมายเลขเครื่องที่บันทึกใน ECU
ทั้งนี้ค่าพารามิเตอร์ต่างๆจะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อรถ บางยี่ห้อไม่โชว์บางค่า สามารถดาวน์โหลดข้อมูลของแต่ละยี่ห้อได้ที่นี่
ISUZU DMAX, MU-7, CHEVROLET COLORADO
TOYOTA VIGO, FORTUNER
3.2 การแสดงรหัสวิเคราะห์ปัญหา(DTC)
รหัสวิเคราะห์ปัญหา(Diagnostic Trouble Code) จะช่วยให้ช่างวิเคราะห์หาปัญหาในการซ่อมรถได้ตรงจุดได้อย่างรวดเร็ว โดยรายละเอียดของรหัสวิเคราะห์ปัญหาสามารถศึกษาเพิ่มเติมได้จาก DTC
ในการใช้เครื่องสมาร์ทเกจเพื่ออ่านรหัสวิเคราะห์ปัญหาก็สามารถทำได้ง่ายมากเพียงแค่กดปุ่มเมนู(ปุ่มที่อยู่ตรงกลาง)แล้วเลื่อนไปที่เมนู READ DTC แล้วกดเมนู เครื่องสมาร์ทเกจก็จะแสดงจำนวนของรหัสวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดออกมา แล้วให้กดปุ่มขึ้นหรือลง เพื่อเลื่อนดูแต่ละรหัสแล้วให้จดไว้เพื่อไปเทียบกับตารางว่าระบบของรถยนต์เกิดความเสียหายเกี่ยวกับอะไร
ในการซ่อมตามแนวทางของรหัสวิเคราะห์ปัญหานั้นไม่ใช่จะถูกต้อง 100 % เพียงแต่ใช้เป็นแนวทางเนื่องยังมีส่วนที่เกี่ยวข้องอื่นๆอีกมากมาย เช่นสายไฟอาจหลวม Sensor อาจเสีย เป็นต้น
3.3 การลบรหัสวิเคราะห์ปัญหา(DTC)
เมื่อบิดกุญแจมาที่ตำแหน่ง “ON” ไฟเอ็นจิ้น(Engine) หรือชื่อเป็นทางการว่า MIL(Malfunction Indicator Lamp) จะโชว์ขึ้นมาแต่เมื่อเราสตาร์ทเครื่องยนต์แล้วไฟ MIL จะต้องดับ แต่ถ้ามันไม่ดับแสดงว่า ECU ตรวจสอบได้ว่ามีระบบใดระบบหนึ่งมีปัญหาและได้บันทึกเป็นรหัส DTC ไว้พร้อมกับส่งสัญญาณให้ไฟ MIL โชว์
เมื่อเราอ่านรหัสวิเคราะห์ปัญหาออกมา หรือทำการแก้ไขปัญหานั้นแล้ว ไฟก็ยังโชว์จำเป็นจะต้องทำการรีเซ็ต หรือลบรหัสนั้นออกจากหน่วยความจำของ ECU
ขั้นตอนการลบก็ให้เข้าไปที่เมนู CLEAR DTC แล้วกดปุ่มเมนู รหัส DTC ที่มีทั้งหมดก็จะถูกลบออกไป
3.4 ระบบ Alarm
นอกจากเครื่อง Smart Gauge จะมีประโยชน์มากมายตามที่บรรยายมาตามข้างบนแล้ว เรายังได้เพิ่มฟังก์ชั่นให้ สมาร์ทเกจสามารถส่งสัญญาณเตือนผู้ขับขี่ได้อีกถึง 4 อย่างคือ
· A/C จะแสดงการทำงานของแอร์โดยจะโชว์เป็นหลอด LED ซึ่งฟังก์ชั่นนี้จะเหมาะกับ DMAX เพราะ DMAX จะไม่มีไฟแสดงการทำงานของแอร์
· BATT เป็นไฟ LED จะติดเมื่อแรงดันของแบตเตอรี่ต่ำกว่าที่เราตั้งไว้ พร้อมกับมีเสียง BUZZER ร้องเตือนด้วย และจะหยุดร้องเมื่อแรงดันไฟของแบตเตอรี่กลับสู่ภาวะปกติ ค่า Setpoint นั้นเราสามารถตั้งได้ โดยปกติจะตั้งไว้ที่ 11 V
· RPM เป็นฟังก์ชั่นการตั้งเตือนเมื่อรอบของเครื่องยนต์สูงเกินที่เราตั้งไว้ โดยหลอด LED จะติดค้างจนกว่ารอบของเครื่องยนต์ตกลงต่ำกว่าที่ตั้งไว้ อีกแนวทางหนึ่งสำหรับกลุ่มที่ต้องการเค้นแรงม้าของรถออกมาก็สามารถใช้ฟังชั่นนี้เป็นฟังก์ชั่นที่ภาษาวัยรุ่นเรียกว่า “ไฟ Shift Light “ ซึ่งจะมีใช้ในพวกรถแข่ง คือเอาไว้บอกว่าลากรอบเครื่องจนถึงรอบที่ได้แรงม้าสูงสุด แล้วไฟ Shift Light จะติดขึ้นเพื่อให้เราเปลี่ยนเกียร์ หรือเราสามารถใช้ในชีวิตประจำวันก็ในกรณีเร่งแซง
· ECT ฟังก์ชั่นนี้จะเป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับรถดีเซลเพราะมันจะเตือนเราเมื่ออุณหภูมิของหม้อน้ำสูงเกินกว่าที่เราตั้งไว้ ซึ่งโดยปกติที่หน้าปัดรถก็จะแสดงไว้แล้วแต่ถ้าเราขับรถโดยไม่ค่อยสังเกตเราจะไม่รู้ถึงความผิดปกติ กว่าเราจะรู้ก็เมื่อเครื่องยนต์ฮีทต์แล้ว อาจถึงฝาสูบโก่งเสียเงินอีกหลายหมื่นบาทซ่อมแล้วยังไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าเดิม ทางที่ดีควรป้องกันไว้ก่อน โดยปล่อยให้เป็นเป็นหน้าที่ของ Smart Gauge คอยส่งสัญญาณเตือนท่านเมื่ออุณหภูมิของหม้อน้ำสูงผิดปกติ
รุ่นรถที่สามารถใช้งานกับ Smart Gauge
ดีเซล (รุ่นที่ผ่านการทดสอบแล้ว)
1.ISUZU DI
2.ISUZU ITEQ
3.ISUZU GOLD SERIES/PLATINUM
4.CHEVLOLET COLORADO
5.TOYOTA VIGO
6.TOYOTA FORTUNER
7.TOYOTA TIGER D4D (2KD-FTV)
8.TOYOTA HIACE (2KD-FTV)
9.TOYOTA INNOVA
10.MAZDA BT-50
11.NEW CHEVLOLET
12.FORD
13.MITSUBISHI TRITON
14.MISUBISHI PAJERO SPORT
15.NISSAN NAVARA
เบนซิน(รุ่นที่ผ่านการทดสอบแล้ว)
1.TOYOTA VIOS
2.TOYOTA ALTIS
3.TOYOTA CAMRY
4.TOYOTA WISH
5.TOYOTA NEW VIOS
6.TOYOTA NEW ALTIS
7.TOYOTA NEW CAMRY
8.TOYOTA YARIS
9.HONDA CITY ZX
10.HONDA CRV G2
11.HONDA CIVIC
12.HONDA ACCORD
13.HONDA NEW CITY
14.HONDA CRV G3
15.HONDA CIVIC FD
16.HONDA NEW ACCORD
17.JEEP
18.VOLVO
19.MAZDA3
20.LANDROVER
21.CHEVLOLET ZAFIRA
22.CHEVLOLET OPTRA
23.CHEVLOLET AVEO
Samsung Galaxy Watch 3 Titanium - iTanium-Arts
ตอบลบSamsung benjamin moore titanium Galaxy Watch 3 Titanium is titanium chloride a high-performance smartphone made by a special trekz titanium pairing purpose team of specialists titanium teeth dog at IT and oakley titanium glasses other industries. Rating: 4.8 · 7 reviews · $549.00 · In stock